ขั้นตอนที่ 1
การค้นหาและเลือกสรรโครงการ
แผนกบัญชี มีหน้าที่
ทางด้านการเงินซึ่งเป็นฝ่ายที่สำคัญมากที่สุดอีกฝ่ายหนึ่ง รับผิดชอบดำเนินการด้าน
รับ – จ่ายเงินทุกประเภท
ประมาณการรายได้และค่าใช้จ่าย งบการเงินและรายละเอียดประกอบงบการเงิน
ปัญหาแผนกบัญชี
มีดังนี้
1.
การทำงานซ้ำซ้อนกันของแผนกบัญชีในส่วนของการทำบัญชีในบริษัท
การคำนวณเงินเดือนและเพิ่มการทำบัญชีเกี่ยวกับรายชื่อของพนักงานเพื่อลดภาระของฝ่ายบุคคล
2.
การเก็บเอกสารยังเป็นการเก็บแบบบันทึกและเอกสารมีจำนวนมากทำให้เกิดการล่าช้าในการติดต่องานกับแผนกอื่นๆเมื่อต้องมีการนำเอกสารไปใช้งาน
การเสนอแนวทางเลือก
ในการนำระบบมาพัฒนาระบบคลังสินค้ามาใช้งาน
หลังจากที่ได้วิเคราะห์ระบบเดิมและพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคือ
มีการทำงานซ้ำซ้อนของแผนกบัญชีและแผนกบุคคลในการคำนวณเงินเดือนของพนักงานอีกทั้งยังมีการเก็บรักษาเอกสารแบบการจดบันทึกไม่มีการเก็บสำรองข้อมูลทำให้มีความเสี่ยงในการที่บริษัทจะสูญเสียเอกสารสำคัญทางการเงิน
เพื่อลดปัญหาต่างๆ
ได้มีการเสนอโครงการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นทางทีมงานได้รวมรวบข้อมูลจากผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องและนำเสนอผู้บริหารจากนั้นจึงได้จำลองขั้นตอนการทำงานของระบบใหม่นำเสนอให้ผู้บริหารและผู้ใช้ระบบเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและนำมาแก้ไขให้ตรงตามความต้องการโดยมีแนวทางเลือกในการพัฒนาโครงการ 3 แนวทางคือ
1.จัดซื้อซอฟแวร์สำเร็จรูป
1.จัดซื้อซอฟแวร์สำเร็จรูป
2.จ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ
3.ใช้ทีมงานเดิมมาพัฒนาและติดตั้งระบบ
ภาพที่ 1 ทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้ที่ดีที่สุด
ทางเลือกที่ 1 : การจัดซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูป ( Packaged
Software ) มีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้
การประเมินแนวทางเลือกที่
1
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม
โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4
ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้
ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3
ช่วงคะแนน 89-70
เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้
ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2
ช่วงคะแนน 69-50
เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้
พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1
ช่วงคะแนน 49-30
เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้
ปรับปรุง
ซึ่งผลจากการประเมิน โดยการให้น้ำหนักหรือคะแนนของทีมงาน
ปรากฏผลดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 1
ทางทีมงานได้สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือกใช้ซอฟต์แวร์ Processsion มาพิจารณา เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด
ทางเลือกที่ 2
: ว่าจ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ
มีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้
การประเมินแนวทางเลือกที่ 2
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก
(คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4
ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้
ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์
เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2
ช่วงคะแนน 69-50
เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้
พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1
ช่วงคะแนน 49-30
เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง
ซึ่งผลจากการประเมิน
โดยการให้น้ำหนักหรือคะแนนของทีมงาน ปรากฏผลดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 2
ทางทีมงานได้สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือก
จ้างบริษัท โพรเฟชชั่น จำกัด มาพัฒนาระบบ มาพิจารณา
เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด
ทางเลือกที่ 3 : ใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบมีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้
การประเมินแนวทางเลือกที่
3
ไม่มีการประเมิน เพราะไม่มีการเปรียบเทียบ
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 3
ทางทีมงานพิจารณาแล้วว่า มีขีดความสามารถที่จะพัฒนาระบบได้ตามข้อกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิคและความต้องการของผู้ใช้งานตามที่จัดทำโดยใช้ระยะเวลาดำเนินการจำนวนทั้งสิ้น 6 เดือนและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวนเงินทั้งสิ้น 430,000 บาท (ค่าเงินเดือน
ค่าอุปกรณ์ ค่าล่วงเวลา และค่าสำรองฉุกเฉิน เป็นต้น)
ตารางเปรียบเทียบการพิจารณาแนวทางเลือกทั้งสามแนวทาง
เปรียบเทียบแนวทางเลือกทั้งสาม
ผลจากการพิจารณาแนวทางเลือกของทีมงานจากทั้งสามแนวทางจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของผู้บริหารเพื่อพิจารณาเลือกแนวทางตามที่ได้นำเสนอจากทีมงานพัฒนาพร้อมข้อเสนอแนะในแต่ละแนวทางเลือกหลักทั้งสาม โดยมีรายละเอียดดังตาราง ต่อไปนี้
ผลจากการพิจารณาแนวทางเลือกของทีมงานจากทั้งสามแนวทางจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของผู้บริหารเพื่อพิจารณาเลือกแนวทางตามที่ได้นำเสนอจากทีมงานพัฒนาพร้อมข้อเสนอแนะในแต่ละแนวทางเลือกหลักทั้งสาม โดยมีรายละเอียดดังตาราง ต่อไปนี้
ผู้บริหารเลือกแนวทางที่ดีที่สุด
หลังจากหัวหน้าทีมงานได้เสนอแนวทางเลือก โดยจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบและข้อเสนอแนะแก่ทีมผู้บริหาร ผลจากการเปรียบเทียบได้ ดังตารางต่อไปนี้
หลังจากหัวหน้าทีมงานได้เสนอแนวทางเลือก โดยจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบและข้อเสนอแนะแก่ทีมผู้บริหาร ผลจากการเปรียบเทียบได้ ดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินโดยทีมงานผู้บริหาร
ทางทีมงานผู้บริหารได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแนวทางจัดซื้อซอฟแวร์สำเร็จรูป
เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและมีความคุ้มค่าในการลงทุน ระยะเวลาในการติดตั้งเป็นที่พอใจ ตรงกับความต้องการมากที่สุด
ขั้นตอนที่ 2
การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
เป้าหมาย
นำระบบบัญชี
มาใช้งานในบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการความต้องการของแผนกบัญชี เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการปฎิบัติงาน
และเพื่อลดภาระของแผนกบุคคล
วัตถุประสงค์
เพื่อวิเคราะห์ ออกแบบ
และพัฒนาให้เป็นระบบบัญชี ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพและช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆให้มากที่สุดในการทำงานและความสมัยใหม่ของระบบเพื่อทันต่อการใช้งาน
ถูกต้อง ว่องไวตรงตามความต้องการ
ขอบเขตของระบบ
โครงการพัฒนาระบบบัญชีได้มีการจัดทำขึ้นโดย
ใช้ทีมงานของบริษัทมารับผิดชอบโครงการ พร้อมกันนี้ได้กำหนดขอบเขตของระบบนี้มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ระบบจะต้องใช้งานง่ายและสะดวก และรวดเร็ว
2. ระบบจะต้องเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดต่อการทำงาน
3. ระบบจะต้องมีความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด
4. มีความสะดวกต่อการค้นหา
5. ระบบมีการจัดแบ่งส่วนต่างๆอย่างชัดเจนคบถ้วน
6. ระบบจะต้องมีการรักษาความปลอดภัยจากบุคคลภายนอก
ปัญหาที่พบจากระบบเดิม
1. เอกสารมีจำนวนมาก ทำให้การจัดเก็บไม่เป็นระเบียบและเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลทางการเงิน
2. ข้อมูลของพนักงานอาจมีการเปลี่ยนแปลง
เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
3. การทำงานของแผนกบัญชีมีความซ้ำซ้อน
ความต้องการในระบบใหม่
1. การทำงานมีความรวดเร็ว
2. สามารถเก็บข้อมูลรายรับ-รายจ่ายและตรวจสอบข้อมูลของบริษัท
3. สามารถเพิ่ม แก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลของพนักงาน
4. สามารถติดต่อกับแผนกอื่นๆได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบใหม่
1. ลดความซ้ำซ้อนกันของการทำงานแต่ละแผนก
2. ลดระยะเวลาในการทำงาน
3. ข้อมูลมีความปลอดภัยและมีการสำรองข้อมูล
4. การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แผนการดำเนินงานของโครงการ
แผนการดำเนินงานของโครงการที่ต้องการวิเคราะห์ระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ระบบงานบุคคล
และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้
ü ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ
ü ประมาณการใช้ทรัพยากร
ü ประมาณการใช้งบประมาณ
ü ประมาณระยะเวลาดำเนินงาน
1. ทีมงานรับผิดชอบโครงการ
ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการที่จะได้รับมอบหมาย คือ
บุคลากรแผนกคอมพิวเตอร์ทั้ง 3 คน
จะดำรงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดังต่อไปนี้
v
นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ
ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ตลอดจนเก็บรวบรวมข้อมูลและติดต่อประสานงานระหว่างผู้ใช้กับทีมโปรแกรมเมอร์
จัดทำเอกสารของระบบ ทดสอบโปรแกรมของระบบ และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
v โปรแกรมเมอร์
ทำหน้าที่ในการเขียนและติดตั้งโปรแกรมของระบบ รวมทั้งทดสอบโปรแกรมและพัฒนาตัวต้นแบบเพื่อสอบถามความคิดเห็นและผลการตอบรับจากผู้ใช้ระบบ
2. ประมาณการใช้ทรัพยากร
ปัจจุบันทางบริษัทใช้ระบบเครือข่าย LAN อยู่แล้วมีรายละเอียดต่อไปนี้
1. เครื่องแม่ข่าย server จำนวน 1 เครื่อง
2. เครื่องลูกข่าย (Workstation) จำนวน 25 เครื่อง
3. เครื่องพิมพ์ (Printer) 7 เครื่อง
4. อุปกรณ์ต่อพวง 8 ชุด
(ตามความเหมาะสม)
ทรัพยากร
|
จำนวน
|
บุคลากร
|
|
นักวิเคราะห์ระบบ
|
2 คน
|
โปรแกรมเมอร์
|
2
คน
|
อุปกรณ์ด้านคอมพิวเตอร์
|
|
เครื่อง
server
|
1 เครื่อง
|
เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย
|
25 เครื่อง
|
เครื่องพิมพ์
|
7
เครื่อง
|
อุปกรณ์ต่อพ่วง
|
8 เครื่อง
|
1. ประมาณการใช้งบประมาณ
สรุปแล้วงบประมาณที่ใช้พอสรุปในของแต่ละฝ่ายได้ดังนี้
1.1 ผู้จัดการ
ค่าตอบแทนสำหรับทีมงานพัฒนา
นักวิเคราะห์และออกแบบระบบโปรแกรมเมอร์ 150,000
บาท
1.2 พนักงาน
ฝึกอบรมพนักงานและผู้บริหาร 10 คน
3,000
บาท
วันฝึกอบรมผู้ดูแลระบบ 1,000
บาท
1.3 จัดชื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์:
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็นworkstation
90,000 บาท
อื่นๆ 18,000 บาท
1.4 ค่าใช้จ่ายระหว่างดำเนินงาน
ค่าบำรุงระบบ
35,000
บาท
จัดชื่อเก็บข้อมูลสำรอง 3,500 บาท
จัดชื่อเก็บข้อมูลสำรอง 3,500 บาท
รวม
300,500
บาท
2. ประมาณระยะเวลาดำเนินงาน
ระยะเวลาการดำเนินงานของโครงการระบบการขาย จะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน วัน
ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม – ตุลาคม 2557 เป็นระยะเวลาในการดำเนินงานของการพัฒนาระบบบุคคลของบริษัท
ระยะเวลาดำเนินงาน
v จำนวนชั่วโมงจริงในการทำงานในแต่ละวัน
หรือส่วนหนึ่งของการประมาณระยะเวลาที่กำหนดไว้ นั่นคือ 8 ชั่วโมงต่อวัน
ไม่รวมช่วงพักเที่ยง
v
เฉพาะวันทำการ คือวันจันทร์-ศุกร์
ไม่นับวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันเสาร์-อาทิตย์
v หากมีการทำงานในช่วงเวลานอกคือหลังเวลาเลิกงานหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันเสาร์-อาทิตย์จะได้รับ OT เพิ่มและวันหยุดนักขัตฤกษ์ได้ค่าแรงเป็น 2 เท่า
รายงานสรุปผลสำหรับผู้บริหาร
จากการที่ได้ศึกษาโครงการพัฒนาระบบบุคคล อาจจะส่งผลต่อการปฏิบัติงานของบริษัทพนักงาน
เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานและระบบสารสนเทศทางบริษัทจึงต้องจัดทำแผนพัฒนาระบบใหม่ขึ้น
ทั้งนี้ทางทีมงานจึงได้พัฒนาระบบและได้ศึกษาความเป็นไปได้ทั้ง 3
ด้านของระบบนี้ประกอบด้วย ความเป็นไปได้ทางเทคนิค ความเป็นไปได้ทางการปฏิบัติงาน
และความเป็นไปได้ทางด้านระยะการดำเนินงานจะเป็นข้อมูลไว้ช่วยสนับสนุนโดยนำมาใช้งานดังต่อไปนี้
1.
ความเป็นไปได้ทางด้านเทคนิค
ทำการศึกษาทั้งทางด้าน Software และHardware ของระบบเดิม ปรากฏว่าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อบนเครือข่ายแบบLAN
Application ที่ใช้ได้แก่
v โปรแกรม Microsoft Office 2010
v โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่องานบัญชี
2.
ความเป็นไปได้ทางด้านการปฏิบัติงาน
ทำการศึกษาทางด้านการปฏิบัติงานของผู้ใช้กับระบบใหม่ที่จะนำมาใช้
จากการสอบถามข้อมูลพบว่า
ระบบใหม่มีความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการบริหารงานบุคคลที่มีอยู่เดิม
ทั้งยังสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
ซึ่งช่วยลดปัญหาการนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปใช้งานได้
และลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนลงได้
3.
ความเป็นไปได้ทางด้านระยะเวลา
ระยะเวลาในการดำเนินงานของโครงการพัฒนาระบบ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 เดือน
ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์-พฤษภาคม ในการดำเนินงานพัฒนาระบบของบริษัท
ขั้นตอนที่ 3
การกำหนดความต้องการของระบบ
เมื่อระบบบัญชีได้รับการอนุมัติจากการนำเสนอโครงการในขั้นตอนที่ผ่านมา ดังนั้น
จึงเริ่มต้นด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบเดิม
ในการกำหนดความต้องการครั้งนี้ ทีมงานเลือกใช้วิธีการออกแบบสอบถาม
ออกแบบสอบถาม
บุคคลที่ตอบแบบสอบถาม คือ ผู้จัดการแผนกต่าง ๆ ในการตอบแบบสอบถาม
การใช้แบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลในส่วนที่ต้องการพัฒนาระบบ เนื่องจากทางทีมงานสามารถควบคุมหัวข้อคำถามที่ต้องการรายละเอียดได้มากกว่าการสัมภาษณ์โดยไม่ต้องมีการจดบันทึกไม่รบกวนเวลาทำงานของผู้จัดการแต่ละแผนก
สามารถเก็บข้อมูลได้มากตามการตั้งคำถามในแบบสอบถามนี้ผู้ตอบแบบสอบถามจะรู้สึกมีอิสระในการให้ข้อมูลเหตุผลที่เลือกสอบถามผู้จัดการทั้ง 5 แผนกนี้ เนื่องจาก 5 แผนกนี้มีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบบัญชีมากที่สุด
จากการที่ทีมงานได้เก็บรวบรวมข้อมูลของระบบเดิม
ด้วยวิธีการออกแบบสอบถาม สามารถสรุปข้อมูลที่ได้รับดังนี้
1. ข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ของระบบเดิม ทางบริษัทใช้ระบบเครือข่าย LAN ประกอบด้วย
1.1 เครื่องแม่ข่าย จำนวน 1 เครื่อง ใช้ซอฟต์แวร์เครือข่าย Windows Server 2007
1.2 เครื่องลูกข่าย จำนวน 5 เครื่อง ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP จำนวน
1.2 เครื่องลูกข่าย จำนวน 5 เครื่อง ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP จำนวน
5 เครื่อง Windows7 จำนวน10 เครื่อง และซอฟต์แวร์สำเร็จรูป
- แผนกบัญชี
ใช้ซอฟต์แวร์สำหรับงานบัญชี AccStar และใช้ Microsoft
Excel 2007 สำหรับคำนวณเงินยอดการสั่งซื้อ สั่งเบิกสินค้า
- แผนกการขาย
ใช้ซอฟต์แวร์ Microsoft
Excel 2007 ในการคำนวณยอดขายสินค้าของแต่ละวัน
- แผนกบุคคล
ใช้โปรแกรมสำเร็จรูป CRM ในการคิดคำนวณเงินเดือนของพนักงาน
- แผนกคลังสินค้า
ใช้ซอฟต์แวร์Microsoft Excel 2007ในการคำนวณยอดการเบิกจ่ายของมาใช้ และจำนวนของในสต็อกสินค้า
พร้อมพิมพ์รายการสั่งซื้อ
- แผนกวัตถุดิบ/จัดซื้อ ใช้ซอฟแวร์ Microsoft
word 2007 ในการพิมพ์รายการสั่งซื้อสินค้า
- แผนกประชาสัมพันธ์
ใช้ซอฟแวร์ Microsoft Power
Point 2007 ในการประชามสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร
- แผนกผลิตสินค้าใช้ซอฟต์แวร์ Microsoft Excel 2007ในการเช็คสินค้าที่จะใช้ผลิตและพิมพ์รายการสินค้าที่ผลิตแล้ว
- แผนกควบคุมคุณภาพใช้ซอฟต์แวร์Microsoft word 2007
ในการพิมพ์รายการตรวจสอบคุณภาพ
- แผนกซ่อมบำรุง
ใช้ซอฟต์แวร์Microsoft Excel 2007ในการคำนวณยอดการเบิกจ่ายของมาใช้ซ่อมบำรุง
และจัดลำดับการเข้าบริการ ซ่อมบำรุง
1.3 อุปกรณ์ต่อพ่วง ได้แก่ เครื่องพิมพ์เลเซอร์จำนวน 2 เครื่อง เครื่องพิมพ์อิงค์เซท 2 เครื่องเครื่องถ่าย เอกสาร 1 เครื่อง
1.4 อุปกรณ์อื่นๆ ตัวปล่อยสัญญาณ Wi-Fi จำนวน 4 ชุด
2. ความต้องการในระบบใหม่
2.1 สามารถสั่งค้นหาเอกสารได้รวดเร็วและถูกต้อง
2.2 สามารถเช็คดูรายรับ-รายจ่ายของบริษัทในแต่ละช่วงวันได้
2.3 สามารถค้นหาข้อมูลของแต่ละแผนกที่ต้องใช้ข้อมูลด้านบัญชีได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
2.3 สามารถค้นหาข้อมูลของแต่ละแผนกที่ต้องใช้ข้อมูลด้านบัญชีได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
2.4 ข้อมูลในระบบสามารถเชื่อมโยงไปยังแผนกอื่นๆได้ แต่จะต้องทำการเข้า Login ก่อน
3. ความต้องการของผู้ใช้ในระบบใหม่
จากแบบสอบถามและการสัมภาษณ์
ทางทีมงานสามารถสรุปความต้องการในระบบใหม่ได้ดังต่อไปนี้
1.1 ตรวจสอบข้อมูลปัจจุบันและข้อมูลย้อนหลังได้
1.2 ข้อมูลของแต่ละแผนกสามารถเชื่อมโยงกันได้
1.3 ทำให้ขั้นตอนการทำงานไม่มีความซ้ำซ้อนแผนกอื่นๆ
1.4 สามารถให้ข้อมูลแก่แผนกได้อย่างรวดเร็ว
1.5 สามารถเรียกดูข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น
1.6 สามารถแก้ไข ปรับปรุงข้อมูลได้โดยสะดวก
1.7 เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
การตอบสนองความต้องการดังกล่าวสามารถแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ระบบดังนี้
1. ระบบการบัญชี
2.
เป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับการเงินของบริษัททั้งหมด
รวมทั้งการจัดเก็บข้อมูลการเงินของบัญชีทั้งหมด ระบบจะช่วยไม่ให้การทำงานซับซ้อน
ช่วยควบคุมรายรับ - รายจ่ายของบริษัท ค้นหาตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
2. ระบบคลังสินค้า
เป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บสินค้ารวมทั้งการตรวจสอบสินค้าคงเหลือในคลังสินค้าว่าสินค้าเหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่
จะได้ผลิตสินค้าพอต่อการส่งออก
3. ระบบการขาย
เป็นระบบที่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการตลาดทำให้เกิดความรวดเร็วในการขาย
ลูกค้าสามารถดูสินค้า สั่งสินค้าได้สะดวกและง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 4
แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบ
จาการวิเคราะห์ความต้องการระบบใหม่ที่รวบรวมมาได้จากผู้ใช้ระบบ
โดยสามารถจำลองได้ด้วยแผนภาพกระแสข้อมูล (Data Flow Diagram) ดังนี้
อธิบาย Context
Diagram
Context Diagram ระบบบัญชี
เป็นระบบการทำงานจัดการรายได้และรายจ่ายของบริษัทรวมถึงการจัดสรรเงินงบประมาณให้กับแผนกต่างๆ
มีผู้ใช้ระบบคือหัวหน้าบัญชีกับพนักงานบัญชี ซึ่งมีสิทธ์และหน้าที่การใช้งานดังนี้
พนักงานบัญชี
- เข้าระบบได้ สามารถเพิ่ม/ลบ/แก้ไข ข้อมูลรายได้
ใบเสร็จรับเงิน ข้อมูลรายจ่าย ใบเสร็จ
จ่ายเงิน
- เรียกดูข้อมูลและพิมพ์รายงานรายรับและรายจ่าย
หัวหน้าบัญชี
- เข้าระบบได้ และจัดสรรเงินงบประมาณให้กับบริษัท
โดยจะเป็นผู้เพิ่ม/ลบ/แก้ไข งบ
ประมาณเองเพื่อป้องกันการทุจริต
- เรียกดูข้อมูลรายได้-รายจ่าย
ทั้งในปัจจุบันและย้อนหลังได้ พร้อมสั่งพิมพ์รายงานได้
อธิบาย Dataflow Diagram Level 0
Process 1.0 ระบบ Log-in
ผู้ใช้ระบบจะต้องทำการล็อกอินเพื่อเข้าไปใช้ระบบ
ระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูลที่มีอยู่ในแฟ้มข้อมูล D1 ถ้าข้อมูลถูกต้องก็จะสามารถเข้าใช้ระบบได้
แต่ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้องระบบจะแจ้งกลับไปยังผู้ใช้
Process 2.0 ระบบการจัดการข้อมูลลูกค้า
พนักงานจะทำการ
กรอกข้อมูลลูกค้าและระบบจะทำการบันทึกข้อมูลและระบบจะแจ้งรายการสินค้าให้กับพนักงาน
Process 3.0 ระบบการขาย
พนักงานสามารถเรียกดูข้อมูลรายการสินค้าที่ขายได้และรายการสินค้าที่สั่งซื่อได้
Process 4.0 ระบบพิมพ์รายงาน
สามารถพิมพ์รายงานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลรายการสินค้า ข้อมูลการขายได้
อธิบาย Dataflow Diagram Level 1
Process 1.1 Log-inเข้าใช้งาน
ผู้ใช้ทำการล็อกอินเข้าใช้งานระบบ ระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้
Process 1.2 Log-inสำเร็จ
เมื่อระบบตรวจสอบข้อมูลถูกต้อง ระบบจะทำการส่งการยืนยันเข้าระบบ
Process 1.4 Log-inไม่สำเร็จ
ถ้าหากผู้ใช้ใส่ User ID ผิดพลาดระบบจะตรวจสอบข้อมูลและจะแจ้งความผิดพลาดไปยังผู้ใช้
อธิบาย Dataflow Diagram Level 1
Process 2.1 ประวัติ
พนักงานจะกรอกข้อมูลลูกค้า ระบบจะบันทึกลงในแฟ้มข้อมูล
Process 2.2 สั่งซื้อ
พนักงานจะกรอกข้อมูลการสั่งซื่อเข้าระบบ ระบบจะบันทึกลงในแฟ้มข้อมูล
Process 2.3คำนวณเงิน
ระบบจะทำการดึงข้อมูลการสั่งซื่อ
มาคำนวณและจะส่งข้อมูลให้กับระบบชำระเงิน
Process 2.4 ชำระเงิน
จะทำการออกใบเสร็จ และบันทึกข้อมูลการชำระเงิน
Process 2.5 พิมพ์รายงาน
ระบบจะทำการดึงข้อมูลมาพิมพ์รายงานให้กับพนักงาน
Dataflow Diagram Level 1 Process 3
อธิบาย Dataflow Diagram Level 1
Process 3.1 ขายสินค้า
พนักงานจะกรอกรายการสินค้าที่ขายได้ และยอดขายเข้าสู่ระบบ ระบบจะบันทึกข้อมูลลงในแฟ้มข้อมูลการขาย
Process 3.2 คำนวณยอดขาย
ระบบจะส่งยอดขายมาคำนวณแล้วออกเป็นยอดขายรวม
ระบบจะนำข้อมูลไปบันทึกในแฟ้มข้อมูลการขาย
Process 3.3เรียกดูและพิมพ์รายงาน
ระบบจะทำการดึงข้อมูลมาพิมพ์รายงานให้กับพนักงาน
แสดงความสัมพันธ์และแผนภาพ E-R Diagram เพื่อกำหนด Attribute และ Primary key
ขั้นตอนที่ 5
การออกแบบ User Interface
การออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface Design)
เป็นการออกแบบจอภาพเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับระบบได้ตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพในปัจจุบันนิยมใช้การออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบกราฟิก (Graphic User Interface)
หน้าจอตัวอย่าง
สำหรับพิมพ์ใบสั่งซื้อ โดยสามารถกำหนดวันที่นัดรับสินค้าเป็นรายสินค้าได้
และสามารถกำหนดคลังที่รับสินค้าได้หลายคลัง
หน้าจอสาหรับบันทึกซื้อสินค้าเข้าสต็อก
โดยบันทึกซื้อเป็นเงินสดหรือเงินเชื่อก็ได้ และสามารถซื้อเป็นเงินต่างประเทศได้
หน้าจอตัวอย่างพิมพ์ฟอร์มเอกสาร โดยสามารถพิมพ์รูปภาพสินค้า
หรือโลโก้บริษัทออกมาที่ฟอร์มเอกสารได้
บันทึกข้อมูลสาหรับพิมพ์เอกสารใบเสนอราคา
การออกแบบฐานข้อมูล
ขั้นตอนที่ 6
การพัฒนาและติดตั้งระบบ
การพัฒนาและติดตั้งระบบ
ทีมงานได้จัดทำ
คู่มือและเอกสารการใช้โปรแกรมของระบบบัญชีเพื่อให้ผู้ใช้ระบบ
สามารถเข้าใจการทำงานและรายละเอียดของโปรแกรมได้มากยิ่งขึ้น ระบบบัญชี
เป็นระบบที่สามารถทำงานได้หลายหน้าที่และมีระบบย่อยทั้งหมด 4 ระบบได้แก่
1. ฝ่ายผู้บริหาร ทำหน้าที่รายงานผลข้อมูลรายได้-รายจ่ายและรายงานผลข้อมูลประจำเดือนแก่ผู้บริหารระดับสูง
2. ฝ่ายการบัญชี/การเงิน ทำหน้าที่
ดำเนินการด้านรายรับ-รายจ่าย ดำเนินการด้านภาษีต่างๆ และดำเนินการเกี่ยวกับใบแจ้งการโอนเงิน,ใบสำคัญเงินโอน และบันทึกข้อมูลประจำเดือนเข้าสู่ระบบ
จัดทำรายงานเงินสดคงเหลือประจำวัน งบกระแสรายวัน
ประมาณการรายได้และค่าใช้จ่าย งบการเงินและรายละเอียดประกอบงบการเงิน
3. ฝ่ายการขายและการตลาด ทำหน้าที่ ตรวจดูยอดการขายสินค้าและดำเนินการเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายและรายงานผลประจำเดือนแก่ผู้บริหาร
4. ฝ่ายคลังสินค้า ทำหน้าที่ เก็บสินค้าเพื่อจำหน่ายและรายงานผลประจำเดือน
ขั้นตอนที่ 7
ซ่อมบำรุง
การซ่อมบำรุงนั้นจะขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาระบบว่าระบบนั้นมีปัญหาอะไรบ้างจะอยู่ในความดูแลของผู้พัฒนาระบบมีการดูแลระบบอย่างต่อเนื่อง
ผู้พัฒนาระบบจะคอยอัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่ๆที่ทันสมัยเพื่อให้โปรแกรมใช้ง่ายขึ้นกว่าเดิมและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานทั้งนี้ระบบที่อัพใหม่จะต้องมั่นใจว่ามีความปลอดภัยและไม่มีความเสี่ยงที่ข้อมูลของบริษัทจะรั่วไหล
หากมีปัญหาเกิดขึ้นผู้พัฒนาระบบจะทำการซ่อมแซมระบบอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น